เครื่องมือวัดความเร็วลม
การวัดความเร็วลมในที่ต่ำๆ จะใช้ มาตรวัดลม หรือ แอนิโมมิเตอร์ (Anemometer)
มี 3 แบบ คือ
1.มาตรวัดความเร็วลมแบบหมุน
มาตรวัดลมแบบถ้วย (Cup Anemometer) มีลักษณะเป็นถ้วยกลมครึ่งซีก
3-4 ใบ ติดอยู่ที่ปลายก้านซึ่งต่อกับแกนกลาง เมื่อลมพัดจะทำให้ลูกถ้วยหมุนไปรอบๆแกนกลาง
จำนวนรอบที่หมุนแสดงความเร็วของลม
มาตรวัดลมแบบปรอเพลเลอร์ (Propellor) มีลักษณะคล้ายกังหันลม
มาตรวัดลมแบบวินด์มิลล์ (Windmill)
2.มาตรวัดลมแบบหลอดความกดดัน โดยอาศัยแรงของลมพัดเข้าไปในหลอด เพื่อให้แรงของลม
กดลงไปบนพื้นผิวโลหะที่มีแขนต่อไปยังหน้าปัดที่บอกสเกลความเร็ว การทำงานเหมือนกับ
แอนนิรอยด์ซึ่งวัดความดันอากาศ มาตรวัดลมแบบนี้ได้พัฒนาไปจนสามารถบอกความเร็วของ
ลมได้ตลอดเวลา มีกระดาษกราฟเป็นม้วนหมุนได้อย่างช้าๆ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบไขลาน
แบบนาฬิกา จึงเป็นมาตรวัดลมแบบอัตโนมัติ เรียกว่า อะนิโมกราฟ (anemograph)
ในการวัดความเร็วลมนั้น ต้องทราบทิศทางที่ลมพัดด้วย ซึ่งใช้อุปกรณ์ง่ายๆในการ
วัดทิศทางของลม เรียกว่า ศรลม (Wind Vane) ลักษณะจะเป็น
ลูกศรที่มีหางเป็นแผ่นใหญ่กว่าลูกศรมาก เมื่อลมพัดมาหางลูกศรจะถูก
ผลักแรงกว่าหัวลูกศร หัวลูกศรจึงชี้ไปทางที่ลมพัด
3.แอโรเวน (Aerovane) เป็นเครื่องมือที่วัดได้ทั้งทิศทางและความเร็วลม
ส่วนในการวัดทิศทางและความเร็วของลมนั้น ในที่สูงๆต้องใช้เครื่องมือที่ เรียกว่า เรวินด์
(Rawind) ซึ่งผูกติดกับบอลลูน โดยรายงานแบบคลื่นวิทยุ นอกจากนี้ยังใช้ ไพลอท บอลลูน
ซึ่งบางครั้งอาจใช้เครื่องเรดาห์ กล้องส่องทางไกล หรือกล้องโทรทัศน์ตรวจสอบจากบอลลูนได้
ในการวัดความเร็วนิยมใช้หน่วยเป็น นอต โดย
1 นอต = 1 ไมล์ทะเลต่อชั่วโมง
1 ไมล์ทะเล = 1.85 กิโลเมตร
นอกจากนี้ยังมีมาตรฐานความเร็วลม คือ มาตราส่วนของโบฟอร์ต มีผู้นิยมใช้กันมาก สร้างโดย
เซอร์ ฟรานซิส โบฟอร์ต ราชนาวีอังกฤษ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น